วันที่ 5/7/2015 เวลาประมาณ 7.00 น. ที่ซอยรามคำแหง 155 ถ.รามคำแหง เชคริฎอ อะหมัด สมะดี ประธานมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ จัดกิจกรรมละหมาดขอฝน มีผู้เข้าร่วมละหมาดประมาณกว่า 200 คน
สืบเนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งที่ประสบกับประเทศไทย จนรัฐบาล ต้องประการชะลอการปลูกข้าวนาปีออกไปในหลายพื้นที่ เร่งช่วยแก้วิกฤตภัยแล้ง ด้วยการขุดเจาะบาดาล อนุมัติงบประมาณ 2,000 ล้านบาท ช่วยเหลือเกษตรกร และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง บินปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ฝนตกเติมปริมาณน้ำเข้าเขื่อนหลัก
ขณะที่หลายคนยังหวังให้มีฝนตกในพื้นที่ที่น้ำไม่พอ จะได้บรรเทาความเดือดร้อน แน่นอนที่สุด ผู้ที่จะอนุมัติฝนได้ มีเพียงอัลลอฮ์ ซบ. เท่านั้น
การละหมาดขอฝนในวันนี้ ได้ทำตามแบบอย่างของ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะสัลลัม เมื่อเกิดแผ่นดินแห้งแล้ง ไม่มีฝนตก ท่านให้มุสลิมทั้งหลายออกมาละหมาดขอฝนและขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ ในสภาพผู้ต่ำต้อย ผู้นอบน้อม
ก่อนการละหมาด เชคริฎอ นำขอดูอาอ์ขอฝนหันหน้าไปทางกิบละฮ์ หลังจากนั้นให้ทุกคนกลับเสื้อผ้า เมื่อเสร็จก็ละหมาดสองร็อกอะฮ์ ต่อจากการละหมาดมีคุตบะฮ์ประมาณ 20 นาที
ตอนหนึ่งเนื้อหาคุตบะฮ์ได้พูดถึงให้มุสลิมทุกคนสำรวจความผิดบาปของตนเอง เพราะอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อัลลอฮ์ทรงโกรธ จึงไม่ประทานฝนลงมาให้ หัวใจของผู้ที่บริสุทธิ์ขอดูอาอ์ อัลลอฮ์ ทรงได้ยิน ประเสริฐกับบรรดาผู้ร่ำรวย บรรดาผู้มีตำแหน่ง
บางพื้นที่อาจจะไม่มีมุสลิมอาศัยอยู่เลย แต่ฝนก็ตกตามฤดูกาล นั้นเป็นเพราะความเมตตาของอัลลอฮ์ ที่มีต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
หลังจากคุตบะฮ์ เชคริฎอนำขอดูอาอ์เป็นรอบสุดท้าย ก่อนผู้ที่มาละหมาดทุกคนจะแยกย้ายกันเดินทางกลับ บรรดาผู้ที่เดินทางมาละหมาดในวันนี้ ล้วนแล้วแต่ดีใจ ที่ได้ปฏิบัติตามแบบอย่างของท่านนบีฯซักครั้งในชีวิต เพราะส่วนใหญ่จะได้เรียนได้อ่านแค่ในตำรา ขณะที่บางคนไม่เคยได้ยิน ได้เห็น
สุดท้ายสิ่งที่สำคัญของการที่ได้มาละหมาดขอฝนในวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาซุนนะฮ์ แบบอย่างของท่านนบีฯไว้อีกด้วย
