185 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กทม, Thailand 10240 [email protected]

มมส.ระนอง พบผู้ว่าฯรายงานปัญหาคนปลุกกระแสเกลียดชังโรฮิงญา

5 มิถุนายน 2015 Abdul Aseem Khuntaddee Comments Off

ภาพปิดข่าว3-810x572

         จากกรณีปัญหาการค้ามนุษย์ ที่พบในภาคใต้ของประเทศไทย จนนำมาสู่การจับกุมกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์และเครื่อข่ายขนานใหญ่ โดยหนึ่งในนั้นคือจังหวัดระนอง ที่เรียกได้ว่าเป็นผืนแผ่นดินแห่งแรกของประเทศไทย ที่ขบวนการค้ามนุษย์จะนำชาวโรฮิงญา-บังคลาเทศขึ้นฝั่ง ก่อนเดินทางสู่อ.สะเดาเข้ามาเลเซีย

ขณะที่การกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนชาวโรฮิงญา-บังคลาเทศที่ถูกจับกุมในประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้น จนมีกระแสข่าวนำไปสู่การสร้างที่พักพิง ที่พักชั่วคราว หรือที่ควบคุม ลือกันไปต่างๆนานา ล่าสุดมีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งในจังหวัดระนอง คอยปลุกกระแสความเกลียดชัง ให้มุสลิมโรฮิงญาในโลกออนไลน์ จนหลายคนแชร์ข้อความต่อกันอย่างแพร่หลาย

อาจารย์อับดุลลอฮ์ ประสงค์ผล ประธานมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขาระนอง กังวลว่าปัญหาดังกล่าวอาจจะขยายเป็นความขัดแย้ง เกลียดชังระหว่างศาสนาระดับประเทศได้ จึงเดินทางพร้อมด้วยนายอาลี ล่ามชาวโรฮิงญามูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ เข้าพบนายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พ.อ.สุทธิพงษ์ จงภักดี รองผอ.รมน.จ.ระนอง ที่ศูนย์ราชการ จังหวัดระนอง พูดคุยถึงปัญหาบุคคลสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นภายในสังคมของจังหวัดระนอง ว่าหน่วยงานราชการจะเข้าไปควบคุมอย่างไร

นายสุริยันต์ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวตนคิดว่าไม่น่าจะขยายเป็นความเกลียดชัง ขัดแย้งขึ้นภายในจังหวัดได้ อีกอย่างตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวถึงกลุ่มคนที่จะออกมาปลุกระดม อย่างไรก็ดีหากมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติมีข้อมูล หรือรู้ตัวบุคคลก็แจ้งมายังตนได้เลย

ด้านพ.อ.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า มีแต่ไม่ได้อยู่ในสังคมปกติ เป็นเพียงการสร้างกระแสในโลกออนไลน์เท่านั้น และกลุ่มคนที่เป็นผู้คิดเขียนข้อความให้เกิดขัดแย้งมีจำนวนเพียง 10 กว่าคน แต่ที่แลดูว่ามีเยอะ เป็นกลุ่มคนชอบแชร์ข้อความมากกว่า ยืนยันจากข้อมูลของ รมน.ยังไม่มีเหตุการณ์ขัดแย้งระหว่างศาสนา อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเองก็ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

พ.อ.สุทธิพงษ์ ยังกล่าวถึงแนวทางให้ความรู้ชาวบ้านเรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์ในชุมชนต่างๆของมุสลิมทั้งจังหวัด เช่นบรรยายหลังละหมาดวันศุกร์ โดยเป็นคำสั่งตรงจากสำนักจุฬาราชมนตรี ให้อิหม่ามเป็นผู้พูดเรื่องต่อต้านการค้ามนุษย์

ด้านอาจารย์อับดุลลอฮ์ เล่าประสบการณ์การทำงานเรื่องค้ามนุษย์ ของมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ เสนอว่า ขอให้หน่วยงานราชการเข้าร่วมให้ความรู้คนในชุมชน เพราะบางทีอิหม่ามไม่กล้าพูด เนื่องจากคนในชุมชนบางคน มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการอยู่ ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นด้วยในแนวทางร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน พร้อมรับปากสนับสนุนกิจกรรม ส่วนที่ว่าจะสร้างที่พักพิงขึ้นในจังหวัดระนอง นายสุริยันต์ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ยืนยันว่าไม่มี เนื่องจากตรวจคนเข้าเมือง มีพื้นที่ควบคุมดูแลอยู่แล้ว

ทั้งนี้จากการพูดคุยถือเป็นความร่วมมืออันดี ของหน่วนงานภาครัฐในจังหวัดระนองกับมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขาระนองในการสร้างความเข้มแข็งเรื่องการทำงานต่อต้านค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตามการประชุมแก้ปัญหาโรฮิงญาในวันที่ 29 พฤษภาคม 58  หลายหน่วยงานทั่วโลกต่างจับตามอง และเชื่อมั่นว่าจะมีมติร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อชาวโรฮิงญาอีกหลายล้านคน จะไม่ต้องระหกระเหินจากครอบครัว จากบ้านเกิดของตนเอง‪#‎ขุนคมคำ‬

error: Content is protected !!