Uncategorized @thกิจกรรมมูลนิธิโครงการมุสลิมโรฮิงยา

ชั่วในคราบ”มุสลิม” เรื่องจริง”มุสลิม”ต้องทราบ

จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ที่จังหวัดสตูล ของทนายฮานีฟ หยงสตาร์เลขาธิการมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติและทีมข่าวไวท์พบความเจ็บปวดที่ไม่อาจเชื่อว่าการกระทำของผู้ที่เรียกตนเองว่ามุสลิม นายอับดุล (นามสมมุติ) ชาวโรฮิงญา ให้ข้อมูลความจริง การเดินทางของหญิงโรฮิงญา เพราะอยากให้สังคมมุสลิมได้ตระหนัก ตรวจสอบคนในครอบครัวทุกคนไม่ให้หลงไปปฏิบัติเช่นนี้เด็ดขาด
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยคำถามว่า หญิงชาวโรฮิงญารู้ว่าขึ้นเรือเดินทางมาประเทศไทยอันตราย เสี่ยงถูกล่วงละเมิดทำไมถึงกล้ามา
คำตอบเพราะพวกเธอหลงเชื่อตามคำหลอกของนายหน้า และพวกเธอคิดว่ามุสลิมด้วยกันเป็นพี่น้องกันไม่น่าจะหลอกลวง จึงตัดสินใจเดินทางตามคำบอกนายหน้าว่า พ่อของเธอที่มาเลเซียจากกันมาตอนเธอยังเด็กอยากพบหน้า เมื่อขึ้นเรือพบบนเรือมีหญิงโรฮิงญาจากเมืองอื่น เดินทางไปด้วยกันหลายสิบคน นอกนั้นมีชายชาวบังคลาเทศและโรฮิงญานับร้อย คนควบคุมเรืออีก 7-8คน คืนแรกๆของการเดินผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีใครทำมิดีมิร้ายบรรดาผู้หญิง หลังจากคืนแรกๆไม่กี่คืนความชั่วของชายที่เป็นหัวหน้าได้ปรากฎ นายหน้าผู้ที่เธอไว้ใจกลับเข้ามาใช้กำลังล่วงเกินเธอ แทบทุกคืน ต่อเมื่อหัวหน้ากระทำเช่นนี้ลูกน้องที่เหลือก็ไม่ขอเอ่ยถึง
กระทั่งถึงแผ่นดินประเทศไทย ช้ำทั้งใจกายก่อนพบหน้าพ่อ ยังถูกนายหน้า นำตัวไปกักต่อไว้ในค่ายบนเขา เธอคิดว่าคงพ้นบททดสอบนี้แล้ว เพราะนายหน้ามาส่งแล้วก็กลับ ความเบาใจยามค่ำคืนไม่ได้เจอบททดสอบจากพวกหัวใจเป็นโรค(กลัดมัน)ได้ไม่พอเดือน ภายในค่ายที่อาศัยใหม่รอเวลาพบหน้าพ่อที่มาเลเซีย เปลี่ยนจากต้องระวังตัวยามค่ำเป็นกลางวันแทน เมื่อชายผู้หนึ่งที่แต่งตัวดีใส่หมวกใส่โต๊ป นามบัง (ฉ) กับหญิงวันกลางคนเป็นภรรยามาที่ค่าย หวังความเป็นมุสลิมว่าจะมาช่วย กลับไม่ช่วยแถมข่มขู่หากเธอและพวกหนี รุ่งเช้าสองสามีภรรยากลับมาอีก ครั้งนี้จำจนไม่อาจลืม เมื่อเด็กคุ้มค่ายบังคับเธอให้นอนกับบัง(ฉ) ทั้งที่ภรรยาของเขาก็มาด้วยแต่ไม่ห้ามเลยซักนิด หญิงหลายคนนอนกับบัง(ฉ)และเด็กคุมค่าย เธอฝืนใจด้วยความจำยอมนอนกับบัง(ฉ)และเด็กคุมค่าย จนตั้งครรภ์อ่อนๆก็ยังถูกบังคับให้นอนด้วย
กระทั่งเธอคลอดลูก และเลี้ยงลูกอยู่ในค่ายที่รายล้อมไปด้วยชุมชนมุสลิม แม้แต่เสียงอะซานจากมัสยิดมิอาจแทรกเข้าหัวใจของคนเหล่านี้ให้หยุดกระทำต่ำๆกับเธอได้
ท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้ไปพบพ่อที่มาเลเซีย ไม่ได้พบหน้าครอบครัวที่รอเธออยู่ในเมียนมา
ปัจจุบันสองสามีภรรยาถูกจับคดีค้ามนุษย์ ขึ้นศาลอยู่ที่ศาลอาญา
อับดุล(นามสมมุติ)ชาวโรฮิงญา กล่าวว่า หากมุสลิม(ผู้นำ)ไม่เริ่มความชั่วช้ากับหญิงโรฮิงญาก่อนมีหรือที่คนอื่น(ลูกน้องทั้งต่างศาสนิกและมุสลิม)จะกล้าทำชั้วเยี่ยงนี้
ถึงแม้ผู้ที่กระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายไปแล้ว แต่สำหรับสังคมมุสลิมที่มีกฎชารีอะฮ์ รู้เรื่องบาปบุญ กันทั้งนั้น ถึงเวลาหรือยัง ที่จะปลุกจิตสำนึกเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เรื่องจบคนนก็ยากลืมไม่กล้า ไม่ขอพูด ปล่อยผ่านไป
ตอนหน้า
-ของมีค่ามากับเรือขนโรฮิงญา หล่อเลี้ยงธุรกิจให้เติบใหญ่ได้แต่ ไม่มีใครจับได้ว่าของนี้ไปไหน?
-อิทธิพลมืดรอวันหวนกลับ รื้อเส้นทางค้ามนุษย์ใหม่
-ยุคแห่งการล้างแค้นของเจ้าพ่อขบวนการค้ามนุษย์ กำลังจะเริ่มขึ้น

‪#‎ขุนคมคำ‬